ในหลวง พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะทูตานุทูต เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

เมื่อเวลา 17.22 น. วันที่ 30 กรกฎาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะทูตานุทูต และผู้แทนฝ่ายกงสุล เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยืนบนพระแท่นออกขุนนางหน้าพระที่นั่งพุดตานถมภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พันโท สมชาย กาญจนมณี รองเลขาธิการพระราชวัง ปฏิบัติหน้าที่สมุหพระราชมณเฑียร เฝ้าฯ กราบบังคมทูลเบิก ดาตุกโจจี แซมูเอล เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย คณบดีคณะทูต เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ ความว่า

“ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ท่านทั้งหลายมาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ เพื่ออำนวยพรด้วยความปรารถนาดีในวันเกิดครบ 6 รอบของข้าพเจ้า ขอสนองพรและไมตรีจิตของทุกท่านด้วยความจริงใจเช่นเดียวกัน คำอำนวยพรที่ท่านคณบดีคณะทูตได้กล่าวในนามของคณะทูตานุทูต กงสุลต่างประเทศ และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างประเทศของเราให้งอกงามแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นนั้น น่าประทับใจอย่างยิ่ง

ประเทศไทยของเรามีนโยบายอันแน่วแน่เสมอมา ที่จะจรรโลงรักษาสัมพันธไมตรีและให้ความร่วมมือกับประเทศผู้เป็นมิตรทั้งปวง เพราะหากนานาประเทศได้ประสานความร่วมมือกันด้วยความเมตตาจริงใจและความเคารพนับถือซึ่งกันและกันแล้ว มิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างชาติและความผาสุกสงบยั่งยืนก็จะดำรงมั่นคงอยู่ในโลกได้อย่างแท้จริง

ข้าพเจ้าจึงใคร่จะกล่าวยืนยันแก่ทุกท่านถึงศรัทธาความเชื่อมั่นอันไม่เสื่อมคลายนี้ ทั้งจะพยายามส่งเสริมสัมพันธไมตรีที่มีอยู่ให้เจริญงอกงามและธำรงยั่งยืนสืบไป

ขออำนวยพรให้ท่านและครอบครัวมีความสุข ความเจริญ และสำเร็จในภาระหน้าที่ทุกอย่าง ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนที่ท่านเป็นผู้แทนอยู่ในราชอาณาจักรนี้ มีความสุข รุ่งเรือง ไพบูลย์ตลอดไป”

จากนั้น มีพระราชปฏิสันถารกับคณะทูตานุทูต และผู้แทนฝ่ายกงสุล แล้วเสด็จลงมุขหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการเจริญพระราชไมตรีกับบรรดามิตรประเทศ อันเป็นรากฐานสำคัญที่ก่อให้เกิดความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความร่วมมือระดับนานาชาติ ทั้งด้านการค้า การลงทุน การศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนนานาประเทศ ซึ่งเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศที่มีอยู่เดิมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งทอดพระเนตรกิจการด้านต่าง ๆ เพื่อนำวิทยาการมาปรับปรุงพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า เมื่อเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติแล้ว ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเสด็จออกทรงรับพระประมุขและผู้นำจากต่างประเทศ ที่เสด็จพระราชดำเนินและเดินทางเยือนประเทศไทยในโอกาสต่าง ๆ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นอำนวยพร ข้อความพระราชสาส์นแสดงความยินดี และข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยในวาระต่าง ๆ ตลอดจนพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง และอักษรสาส์นตราตั้ง ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ในประเทศไทย